โรงเรียนบ้านหนองลูกช้าง ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2493 ที่บ้านหนองลูกช้าง หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านขาม อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ โดยแยกสาขาออกจาก โรงเรียนวัดสวนสว่างบ้านนา โดยมีนายเชย ชำนาญกุล ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านได้นำชาวบ้านก่อสร้างอาคารเรียน ขนาด 3 ห้องเรียน ซึ่งอยู่ในพื้นที่แปลงที่ 1 โดยมีนายสุนันท์ ระจินดา มาดำรงตำแหน่ง ครูใหญ่
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507 ได้รับงบประมาณจากทางราชการเป็นจำนวนเงิน 25,000 บาท สมทบทุนสร้างอาคารเรียนเป็นเอกเทศถาวร แบบ ป. ใต้ถุนเตี้ย ซึ่งได้ย้ายจากที่ดินแปลงที่ 1 มาปลูกสร้างในที่ดินแปลงปัจจุบัน โดยมีนายสมศักดิ์ ประดับวงษ์ ดำรงตำแหน่งครูใหญ่ พร้อมด้วยนายแม้น สิงห์โตแก้ว ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านได้สละเงินสมทบในการก่อสร้างอาคารเรียนเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ.2521 ทางราชการได้แต่งตั้งนายชัยฤกษ์ ทรัพย์สมบัติ มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่และได้เปิดทำการสอน ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นปีแรก ทำให้ขาดแคลนอาคารเรียน จึงขอความร่วมมือจากชาวบ้านบริจาคเงิน 7.000 บาท สร้างอาคารเรียนแบบชั่วคราวขึ้น และจัดงานหารายได้ซื้อวัสดุ ครุภัณฑ์ต่างๆเป็นจำนวนเงิน 43,850 บาท
ปี พ.ศ. 2523 โรงเรียนได้รับงบประมาณจากทางราชการจำนวนเงิน 384,000 บาท สร้างอาคารเรียนแบบ ป.1 ฉ (ใต้ถุนสูง) และได้รับงบประมาณต่อเติมชั้นล่างเป็นจำนวนเงิน 134,500 บาท หลังจากนั้นได้รับงบประมาณ ในการสร้างส้วม 1 หลัง จำนวน 4 ที่ เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท
ปี พ.ศ.2526 คณะครูและชาวบ้านได้จัดสร้างฐานเสธงพร้อมกับเสาเป็นจำนวนเงิน 3,500 บาท และได้ซื้อชุดรับแขกบุนวมเป็นจำนวนเงิน 3,500 บาท มอบให้เป็นสมบัติของโรงเรียน
ปี พ.ศ.2527 คณะครูร่วมกับชาวบ้านได้บริจาคเงินซื้อรถตัดหญ้า เป็นจำนวนเงิน 4,500 บาท มอบให้เป็นสมบัติของโรงเรียน
ปี พ.ศ. 2529 โรงเรียนได้รับงบประมาณสร้างอาคารอเนกประสงค์แบบ สปช. 202/26 จำนวน 1 หลัง ราคา 200,000 บาท
ปี พ.ศ.2531 ได้รับจัดสรรสร้างเรือนเพาะชำ 1 หลัง
ปี พ.ศ.2533 ได้รับจัดสรรสร้างถังเก็บน้ำฝน แบบ ฝ. 33 จำนวน 1 ชุด จำนวนเงิน 43,000 บาท
ปี พ.ศ.2540 โรงเรียนได้รับงบประมาณจากทางราชการในโครงการปรับปรุงโรงเรียนให้เป็นปัจจุบัน จำนวน 100,000 บาท
ผู้บริหารโรงเรียนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งโรงเรียนมาจนถึงปัจจุบัน มีจำนวนทั้งสิ้น 7 คน สำหรับผู้บริหาร โรงเรียนคนปัจจุบันคือ นายถวิล ตันดี ซึ่งได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนบ้านหนองลูกช้าง ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2535 และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2546
ปัจจุบันโรงเรียนบ้านหนองลูกช้างมีพื้นที่ 33 ไร่ 3 งาน 40 ตารางวา มีอาคารเรียนที่ได้รับจัดสรรจากทางราชการ 1 หลัง 6 ห้องเรียน อาคารเฉลิมพระเกียรติ 1 หลัง 2 ห้องเรียน(สร้างเอง) อาคารอเนกประสงค์ 1 หลัง ส้วม 1 หลัง 4 ที่ ห้องเรียนชั่วคราว (สร้างเอง) 1 หลัง ศาลากำลังทรัพย์ 1 หลัง (สร้างเอง) สนามเด็กเล่น 1 หลัง เรือนเพาะชำ 1 หลัง ร้านค้าสหกรณ์ 1 หลัง (สร้างเอง) ถังเก็บน้ำฝน 1 ชุด ปีงบประมาณ 2551 ได้รับงบประมาณในการสร้างส้วมจากศิษย์เก่า จำนวนเงิน 70,000 บาท
จำนวนห้องเรียน 8 ห้องเรียน จำนวนครู 8 คน นักการภารโรง 1 คน จำนวนนักเรียน ปี 2551 จำนวน 64 คน
เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2553
สภาพปัจจุบันของโรงเรียน
โรงเรียนบ้านหนองลูกช้าง เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านขาม อำเภอ จัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ รหัสไปรษณีย์ 36130 ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2493 มีเนื้อที่ 33 ไร่ 3 งาน 40 ตารางวา มีหมู่บ้านในเขตบริการ 2 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านหนองลูกช้าง และบ้านโนนพะยอม ซึ่งเป็นชุมชนแบบชนบท ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม รับจ้าง และค้าขายเป็นบางส่วน มีฐานะค่อนข้างยากจน ปัจจุบันโรงเรียน เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 64 คน ครู 8 คน นักการภารโรง 1 คน รวมบุคลากร 9 คน อาคารเรียน 1 หลัง แบบ ป 1 ฉ ใต้ถุนสูง 6 ห้องเรียน
โรงเรียนบ้านหนองลูกช้าง เป็นพื้นที่ราบ ดินร่วนปนทราย ดินกร่อยมีลำห้วยคลองไผ่งามไหลผ่าน มีอาณาเขตติดต่อกับหมู่บ้านต่าง ๆดังนี้
ทิศเหนือ จดหมู่บ้านโนนพยอม ตำบลบ้านขาม อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ทิศใต้ จดบ้านท่าศาลา ตำบลบ้านตาล อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ
ทิศตะวันออก จดบ้านขาม ตำบลบ้านขาม อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ทิศตะวันตก จดบ้านนา ตำบลบ้านขาม อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
การคมนาคม ติดต่อโดยทางบก มีถนนลาดยางเชื่อมต่อระหว่างอำเภอและหมู่บ้าน
โรงเรียนบ้านหนองลูกช้าง ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้าน มีหมู่บ้านในเขตบริการ 2 หมู่บ้าน คือ
- บ้านหนองลูกช้าง หมู่ที่ 3 มีครัวเรือน 189 ครัวเรือน มีประชากร 731 คน เป็นชาย 335 คน หญิง 376 คน
- บ้านโนนพยอม หมู่ที่ 7 มีครัวเรือน 49 ครัวเรือน มีประชากร 230 คน เป็นชาย 109 คน หญิง 121 คน ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารคือ ภาษาไทย(ถิ่น)